
2. เลือกเครื่องดื่มแทนขนม
3. งานอดิเรก
4. ออกห่างทีวี
5. แปรงฟัน
5. การยืนพักขาลงน้ำหนักด้วยขาข้างเดียว
การยืนที่ถูกต้องควรลงน้ำหนักที่ขาทั้ง 2 ข้างเท่าๆกัน โดยยืนให้ขากว้างเท่า สะโพกจะทำให้เกิดความสมดุลของโครงสร้างร่างกายไม่ทำให้กล้?ามเนื้อข้างใด ข้างหนึ่งต้องทำงานหนักมากเกินไป ในทางตรงข้าม หากยืนพักขาหรือลงน้ำหนักขาไม่เท่ากัน จะทำให้กระดูกเชิงกรานบิดเบี้ยวส่งผลให้กระดูกสันหลังคด
6. การยืนแอ่นพุง/หลัง
ควรยืนหลังตรงแขม่วท้องเล็กน้อย ขณะยืน เดิน หรือนั่ง ให้พยายามแขม่วท้องเล็กน้อยโดย ให้มีสติรู้สึกตัวอยู่ตลอด หากเป็นไปได้ควรทำตลอดเวลาเพื่อเป็นการรักษาแนวกระดูกช่วงล่างไม่ให้แอ่นและทำให้ไม่ ปวดหลัง
7. การใส่ส้นสูงเกิน 1 นิ้วครึ่ง
จะทำให้แนวกระดูกสันหลังช่วงล่างแอ่นมากกว่าปกติ ซึ่งจะนำมาสู่อาการปวดหลังและการมี โครงสร้างร่างกายที่ผิด
8. การสะพายกระเป๋าหนักข้างเดียว
ไม่ควรสะพายกระเป๋าข้างใดข้างหนึ่งต่อเนื่องกันเป็นเวลานาน ควรเปลี่ยนเป็นการถือ กระเป๋า โดยใช้ร่างกายทั้ง 2 ข้างให้เท่าๆกัน อย่าใช้แค่ข้างใดข้างหนึ่งตลอด เพราะจะทำให้ตัวคุณต้องทำงานหนักอยู่ เพียงซีกเดียว ส่งผลให้กระดูกสันหลังคดได้
9. การหิ้วของด้วยนิ้ว
การใช้นิ้วหิ้วของหนักบ่อยๆ จะมีผลทำให้มีพังผืดยึดตามข้อนิ้วมือ เพราะจริงๆแล้วกล้ามเนื้อในมือ เป็นกล้ามเนื้อมัดเล็ก หน้าที่หลักคือการใช้หยิบ,จับโดยไม่หนัก แต่หากต้องใช้จับหรือหิ้วหนักๆ จะทำให้เส้นเอ็นมีการ เสียดสีและเกิดพังผืดในที่สุด ยิ่งหากหิ้วหนักมากๆ จะทำให้รั้งกล้ามเนื้อมัดอื่นๆ และเกี่ยวโยงไปถึงกระดูกคอ ทำให้กล้ามเนื้อเกร็งมากกว่าปกติ มีผลต่อการทรุดของกระดูกและกดทับเส้นประสาทได้
10. การนอนขดตัว/นอนตัวเอียง
ท่านอนหงายเป็นท่านอนที่ถูกต้องที่สุด ควรนอนให้ศีรษะอยู่ในแนวระนาบขนานกับ เพดานไม่แหงนหน้าหรือก้มคอมากเกินไป หมอนหนุนศีรษะต้องไม่แข็งหรือนิ่มเกินไป ควรมีหมอนรองใต้เข่าเพื่อลดความแอ่นของกระดูกสันหลังช่วงล่าง หากจำเป็นต้องนอนตะแคง ให้หาหมอนข้างก่ายโดยก่ายให้ขาทั้งหมดอยู่บนหมอนข้าง เพื่อรักษาแนวกระดูกให้อยู่ในแนวตรง
น้ำตาลก็คือคาร์โบไฮเดรตรูปแบบหนึ่ง เมื่อมันเข้าสู่ร่างกายจะถูกเปลี่ยนให้กลายเป็นไขมัน และถูกส่งไปสะสมอยู่ตาม หน้าท้อง สะโพก ต้นขา และที่อื่นๆ ที่คุณไม่อยากให้มี
6. เป็นโรคติดเชื้อได้ง่ายขึ้น
เพราะน้ำตาลก็คืออาหารของเชื้อโรค คนที่ชอบความหวานจึงมักจะแผลหายช้ากว่าคนอื่น และถึงหายก็มักจะเป็นแผลเป็น เพราะเชื้อโรคที่บาดแผลได้ของดีมาเพิ่มพลังนี่เอง